กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมในฮ่องกง ออกมาประท้วงต่อต้านการตัดหูฉลาม หลังจากพบหูฉลามสดเกือบ 2 หมื่นชิ้น ตากอยู่บนดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการพบหูฉลามสดจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมา
หูฉลามสดจำนวนกว่า 1 หมื่น 8 พันชิ้น ถูกพบอยู่บนอาคารสูงย่านเคนเนดี้ทาวน์ ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพบหูฉลามสดจำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เคยมีมา โดยเบื้องต้นทราบว่า หูฉลามดังกล่าวเป็นของบริษัทประมงที่เตรียมขายให้กับร้านอาหารต่างๆ ของฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายแกรี่ สโต๊กส์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมกลุ่ม"ซี เชพเพิร์ด" ในฮ่องกง กล่าวว่า เขารู้สึกหดหู่ที่ได้เห็นภาพหูฉลามสดนับหมื่นเหล่านี้ เนื่องจากชาวประมงฮ่องกงส่วนใหญ่ มักใช้วิธีตัดครีบของฉลาม และปล่อยพวกมันลงสู่ท้องทะเลจนตาย ซึ่งเป็นวิธีที่โหดเหี้ยม และไร้มนุษยธรรม และหากปล่อยไว้ อาจทำให้จำนวนฉลามที่มีอยู่ตามธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลเสียต่อระบบนิเวศทางทะเลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ WWF ระบุว่า ในทุกปีจะมีฉลามถูกล่าเพื่อทำหูฉลามกว่า 73 ล้านตัว ซึ่งหูฉลามที่ได้มาส่วนใหญ่จะถูกนำส่งไปขายยังประเทศจีน เพื่อใช้ในการประกอบอาหาร
ขณะที่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายภาคส่วนของสังคมได้ออกมารณรงค์ต่อต้านการบริโภคหูฉลามกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแคมเปญต่อต้านการกินหูฉลามของนายเหยา หมิง นักบาสเกตบอลเอ็นบีเอชื่อดังของจีน และการแบนเมนูหูฉลามของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ตลอดจนโรงแรมชื่อดังต่างๆ ในฮ่องกง
นี่เป็นภาพของหูฉลามนับหมื่นชิ้นที่กำลังถูกตากแห้งบนดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่งในฮ่องกงเพื่อเตรียมรับงานฉลองตรุษจีนในต้นเดือนหน้า ทำให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของฮ่องกงออกมารณรงค์ต่อต้าน “ธุรกิจที่ป่าเถื่อน” นี้ นักเคลื่อนไหวเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่เห็นจำนวนหูฉลามที่ถูกเก็บไว้ในสถานที่เดียวมากที่สุด
“นี่เป็นธุรกิจที่ป่าเถื่อนที่สุด ลองนึกถึงภาพของปลาฉลามที่ถูกตัดครีบออกและถูกโยนกลับลงไปในทะเลเพื่อรอวันตาย” Gary Stokes ซึ่งเป็นตัวแทนในฮ่องกงของกลุ่มรณรงค์อนุรักษ์ชีวิตสัตว์น้ำที่มีชื่อว่า Sea Shepherd
ฮ่องกงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของหูฉลาม นำเข้าหูฉลามประมาณ 10,000 ตันต่อปี และในแต่ละปีเชื่อว่ามีปลาฉลามกว่า 73 ล้านตัวถูกฆ่า
(ภาพและข้อมูลจากจาก AFP)
ที่มา https://www.facebook.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น