ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (16 พ.ค.2559) ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิจำนวนกว่า 100 คน ประกอบด้วย บ้านซับพะกูด ม.13 และ บ้านทรัพสมบูรณ์ ต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ต่างพากันอยู่ในอาการขวัญผวา แตกตื่นตกใจ และพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ หลังจาก นางอมรรัตน์ ประทุมตรี อายุ 53 ปี ชาวบ้านซับพะกูด ม.13 หม้อดินโผล่ก้นขึ้นมาจำนวนมากหลายใบ ขณะเดินตรวจดูไร่มันสำปะหลังของตัวเองบริเวณ ริมถนนทางหลวงหมายเลย 201 สายชัยภูมิ-แก้งคร้อ ช่วงระหว่างรอยต่อ 2 หมู่บ้าน ได้แก่ ม.13 และ ม.14 ต.ห้วยไร่ จึงไปแจ้งให้เพื่อนบ้านพากันมาช่วยกันดูว่าเป็นหม้ออะไร เมื่อเปิดหม้อออกดูถึงกับผงะ เพื่อพบว่าภายในมีเถ้ากระดูกบรรจุอยู่ภายในและถูกใช้ผ้ายันต์ปิดมัดทับปากหม้อไว้ทุกใบอย่างดี โดยหม้อดินดังกล่าวน่าจะโผล่ขึ้นมาจากดิน หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง 2
จากการตรวจพบหม้อดินทั้งหมดมีจำนวน 14 ใบ ซึ่งคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหม้อสะกดวิญญาณของคนตายไว้ภายในหม้อดินตามความเชื่อ ทำให้ชาวบ้านต่างหวาดผวา เกรงว่าหากหม้อดินที่พบเกิดแตกออกมาจะมีวิญญาณดุร้ายหรือสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในหมู่บ้านและชุมชนใกล้เคียงได้ จึงได้มีการไปช่วยกันไปติดต่อหาร่างทรงหรือหมอทรง และพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ และพระหลวงพ่อในหมู่บ้านออกมาช่วยดู และทำพิธีปัดรังควาญ
ทั้งนี้ หมอทรง กล่าวว่า หม้อดินสะกดวิญญาณที่นำมาฝังไว้ทั้งหมดในจุดดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเป็นวิญญาณเด็กเกือบทั้งหมด ที่คนทำพิธีลักษณะนี้เพื่อหวังว่าการนำหม้อบรรจุเถ้ากระดูกวิญญาณ ของคนที่ตาย หรือเด็กที่ตาย ปิดผ้ายันต์มาฝังในลักษณะคว่ำหม้อในลักษณะนี้ไว้นั้น เพื่อไม่ต้องการไม่ให้วิญญาณไปเกิดและต้องการเก็บวิญญาณเหล่านี้ไว้ใช้งาน คล้ายๆการทำการเลี้ยงลูกกรอกเลี้ยงวิญญาณผีไว้ใช้งานตามความ
ต่อมา ชาวบ้านและพระสงฆ์หลวงพ่อจากวัดบ้านโสกมูลนาคและพราหมณ์ หมอทรงท้าวเวสสุวรรณ ปู่ฤาษีพุทธชัยนาคราช จากหมู่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ได้ร่วมกันทำพิธีทางศาสนาตามความเชื่อของคนในหมู่บ้าน เพื่อที่จะได้ช่วยกันสวดมนต์และทำพิธีถวายสังฆทาน เพื่อช่วยกันปลดปล่อยกลุ่มวิญญาณที่พบดังกล่าวใน 14 หม้อดินทั้งหมดเพื่อช่วยให้ไปเกิดในภพภูมิใหม่ต่อไปแล้ว ก่อนที่จะนำหม้อดินไปเก็บไว้ที่วัดเพื่อช่วยทำพิธีกันตามศาสนาต่อไป จึงทำให้ชาวบ้านที่ต่างหวาดผวาในพื้นที่ไปทั่วตำบลครั้งนี้เกิดความสบายใจอุ่นใจมากขึ้นว่าจะไม่มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในหมู่บ้านได้อีก
ที่มา http://readsabay.blogspot.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น