กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง !!! เริ่มคว่ำบาตรตำรวจจราจรได้ … ตั้งแต่วันนี้!!! ยุทธศาสตร์แรกมาแล้ว เพจดังปล่อยของ ปลุกระดมมวลชนลุกฮือ คลื่นใต้น้ำได้เวลาตื่นขึ้นมาแล้ว (รายละเอียด)



กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง !!! เริ่มคว่ำบาตรตำรวจจราจรได้ … ตั้งแต่วันนี้!!! ยุทธศาสตร์แรกมาแล้ว เพจดังปล่อยของ ปลุกระดมมวลชนลุกฮือ คลื่นใต้น้ำได้เวลาตื่นขึ้นมาแล้ว (รายละเอียด)
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ได้มีเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า สนับสนุนปฏิรูปตำรวจ ได้โพสเกี่ยวกับ ประกาศปรับแผนการคว่ำบาตรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีประเด็นขึ้นมาที่ว่า ตำรวจมีไว้ทำไม? และได้มีการจัดเสวนาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ขี้น เรื่องที่จะคว่ำบาตรเรื่องแรก เป็นเรื่องด้านจราจร โดยทางเพจก็ได้ระบุไว้ในข้อความไว้ว่า… “ประกาศปรับแผนคว่ำบาตรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ!!! เริ่มได้ตั้งแต่บัดนี้!!


เนื่องจากเราได้ระบุไปหลายครั้งว่าตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป เราจะประกาศคว่ำบาตรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีหลักๆอยู่ 3 หัวข้อ แต่ยังไม่เปิดเผยเนื้อหาว่าเป็นด้านไหนและใช้วิธีการไหน แต่วันนี้เราต้องปรับยุทธวิธี ให้พี่น้องประชาชนยกระดับการต่อสู้ เริ่มคว่ำบาตรตำรวจจราจรได้ตั้งแต่วันนี่ !
เหตุที่ยังไม่เคยเผยหัวข้อโดยหวังจะประกาศเป็นทางการปีหน้า ก็เนื่องจากการต่อสู้กับองค์กรที่ถือกฏหมายและมีทรัพยากรอยู่ในมือมากมายเช่นแผนกรองลงมาที่ทำงานด้านการข่าวโดยเฉพาะ (information operation) ที่พร้อมจะปฏิบัติการสยบทุกด้านที่เป็นภัยแก่องค๋กร ด้วยวิธีการหลากหลายเช่น จับแพะชนแกะ จับแยกมวลชน ปล่อยข่าวลวง ปล่อยข่าวดิสเครดิต รวมไปถึงการใช้สุนัขรับใช้คอยแทรกซึม และสร้างความกลัวหรือความเข้าใจผิด เบี่ยงประเด็น จนสามารถสร้างความพ่ายแพ้ให้กับการเคลื่อนไหวภาคประชาชนได้ เช่นจากกรณีที่มีบุคคลหนึงจากกลุ่มหนึงในกรุงเทพ ซึ่งได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเพื่อขอต่อสู้บนชั้นศาลแล้วอยู่ๆมีข่าวว่าถูกจับต้องประกันตัว ซึงจริงเท็จแค่ไหนเราไม่ทราบ แต่ข่าวนี้ได้สร้างความเสียหายกับพี่น้องประชาชนทั่วไทยไม่กล้าที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาไปสู้บนศาล
ที่มงานและเครือข่ายสนับสนุนปฏิรูปตำรวจตระหนักถึงวิธีการแสบๆเหล่านี้ จึงต้องเดินด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายแก่กำลังใจของพี่น้องประชาชน และวิธีการที่จะป้องกันความผิดพลาดได้ดีที่สุด คือการสร้างความรู้ให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในขั้นตอนต่างๆให้ลึกซึ้งเสียก่อนก่อน แล้วค่อยประกาศนี่แหละคือวิธีการ


และที่วันนี้เราตัดสินใจเริ่มประกาศคว่ำบาตรในหัวข้อด้านจราจร ก็เนื่องจากได้มีเรื่อง”บังเอญ”เกิดขึ้น คือทนายเกิดผล แก้วเกิด ซึ่งถือว่าเป็นทนายของประชาชนอย่างแท้จริงท่านหนึง ได้โพสต์ในเพฟสบุ๊คสวนตัวในวิธีการ “ไม่ชำระค่าปรับที่โรงพัก ชำระค่าปรับที่ศาลแทน” ได้สร้างความประหลาดใจให้ทีมงานสนับสนุนปฏิรูปตำรวจอย่างมาก เนื่องจากสิ่งนี้คือหนึงในหัวข้อการคว่ำบาตรของเราเอง ที่ไม่คิดไม่คาดการณ์มาก่อนเลยว่าจะมีท่านใดกล้าที่จะพูดออกไป จึงถือว่า ต้องยกย่องทนายท่านนี้ที่คิดและกล้าอธิบายในจุดนี้ออกมา ก็ขอชื่นชมทนายอีกรอบว่าท่านเป็นทนายที่หัวดีและกล้าหาญมาก
จึงขอประกาศเริ่มปฏิบัติการ์คว่ำบาตร สตช. ในหัวข้อด้านการจราจรตรงนี้ และแก้ไขเพิ่มเติมในวิธีการชำระค่าปรับที่ศาล

1.ผิดจริงหรือไม่ผิดประชาชนสามารถบอกร้อยเวรผู้มีอำนาจในการเปรียบเที่ยบปรับ ว่าขอให้ศาลเป็นผู้กำหนดค่าปรับ ตำรวจมีอำนาจแค่ถามชื่อที่อยู่แล้วปล่อยไป
2.ไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ไม่มีโทษจำคุก หากถูกกลั่นแกล้ง ให้บอกไปว่าขอใช้สิทธิในการสาบานตน มีผลคือใช้การสาบานเป็นหลักประกัน (นอกจากเป็นคนที่มีประวัติอาชญากรรมอยู่แล้ว)
3.ไปศาลหากสารภาพจะได้สิทธิในการลดโทษ เช่นค่าปรับ 1000 เหลือ 500 แต่จะไม่ใช่อัตราที่ตำรวจระบุไว้ตั้งแต่ต้น
4.การได้ % จากค่าปรับ จราจรยังคงได้อยู่เนื่องจากเป็นไปตาม พ.ร.บ.จราจร แต่ตำรวจจะยุ่งยากในการทำเรื่องขอเงิน อีกทั้งตำรวจไม่ใช่คนสรุปยอด จะไม่สามารถทำรายงานเท็จ เป็นค่าปรับที่ผ่านกระบวนการศาล มีรายงานที่ตรวจสอบได้ เงินที่ควรเข้าหลวงหรือใช้ในราชการแผ่นดินจะไม่สุญหายไปแน่นอน

ความไม่รู้ไม่เข้าใจที่เป็นศัตรูของกวามกล้า หากประชาชนหัดศึกษา หัดขึ้นศาล มีความคุ้นเคยกับกระบวนการยุติธรรม หัดเรียนรู้ภาคปฏิบัติมากขึ้น ผลสุดท้ายจะไม่มีตำรวจคนไหนนำกฏหมายมากดขี่ประชาชนได้ คดีจราจรไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากมีคนลุกสู้และใช้วิธีนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นเชื้อจุดการก่อตั้งศาลจราจรในทุกจังหวัดที่ร่วดเร่วและสะดวก และการจ่ายเงินที่ด่านหรือที่โรงพักจะหายไปแน่นอน ขอให้ประชาชนเลิกกลัวแล้วหัดกล้า”



ที่มา http://khaososo.blogspot.com/2017/04/blog-post_2.html
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น