จากกรณีที่มีการหายตัวไปของ นายนิรันดร์ สร้อยสูงเนิน ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา จนในเวลาต่อมาชาวโลกออนไลน์ต่างแชร์โพสต์ดังกล่าว หวังมีผู้พบเห็น และแจ้งเบาะแสแก่ครอบครัวของบุคคลที่หายตัวไป
การพบศพชาย ถูกฆ่าฝังดิน พร้อมทรัพย์สินบางส่วน และป้ายทะเบียนรถ 3 กท 4210 กรุงเทพมหานคร บริเวณซอยหลังวัดบ้านโสกตลับ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเชื่อว่า เป็น นายนิรันดร์ สร้อยสูงเนิน หรือ รัน อายุ 24 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ที่ญาติได้แจ้งหายไว้ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังพบอาวุธมีดปลายแหลมสั้นตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆ่าด้วยการแทงจนเสียชีวิตมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. และนำร่างมาเผาทิ้งเพื่ออำพรางคดี ก่อนที่จะนำศพที่ถูกเผาแล้วที่ยังไหม้ไม่หมดมาขุดหลุมฝังไว้อีกครั้ง ในจุดนี้เพื่ออำพรางคดี ส่วนรถยนต์ของผู้ตายคนร้ายน่าจะถอดทะเบียนออกมาเผาทำลาย แต่คนร้ายขับเอาแต่รถยนต์เก๋งของผู้ตายหลบหนีไปด้วย
อบถามนายสมศักดิ์ ศรีสิน กำนันตำบลโสกตลับ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30น. พ่อตาของตนได้มาแจ้งว่า พบหลุมดินที่ขุดใหม่ๆในบริเวณป่ายูคาลิปตัสท้ายหมู่บ้าน และสุนัขที่ไปด้วยกำลังคุ้ยเขี่ยอยู่ บริเวณหลุมดินคล้ายมีกระดูกโผล่ขึ้นมา ซึ่งพ่อตายังเล่าต่อว่าลองไปดูนะเผื่อเป็นศพของนายนิรันดร์ที่หายไปตามที่เป็นข่าวอยู่ แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่มืดค่ำประกอบกับมีลมฝนปรอยๆ ตนจึงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเสียก่อน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดกู้ภัยเข้าไปทำการตรวจสอบ จนเช้าวันนี้หลังตรวจสอบด้วยการขุดหลุมขึ้นมาดูจึงพบว่าเป็นซากศพพร้อมเอกสารของนายนิรันดร์จริง
จากการตรวจสอบพบ รูปถ่ายในชุดนักศึกษาของ นายนิรันดร์ และ เอกสารส่วนตัว อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ พ่อและแม่ รวมถึงครอบครัวของ นายนิรันดร์ ได้เดินทางมาถึงจุดที่พบศพแล้ว พร้อมกับร้องไห้โฮทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบถาม ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อ วันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา นางบัวลี สร้อยสูงเนิน มารดาของ นายนิรันดร์ หรือ รัน ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ทางครอบครัวอยากให้น้องรันได้เป็นทหาร แต่เมื่อจับได้ใบดำไม่ได้รับการคัดเลือก ลูกชายจึงขอเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อคืนชุดครุยรับปริญญา จนเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ลูกชายเดินทางกลับบ้านได้โทรศัพท์มาหาตน บอกจะกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้าน ซึ่งก็ได้ติดต่อกันเป็นระยะ จนเวลา 20.37 น. ลูกชายแจ้งว่าเดินทางใกล้ถึง อ.จตุรัส แล้ว และก็ได้ขาดการติดต่อไป
ทั้งนี้ทางด้าน นางบัวลี ยังกล่าวอีกว่า ตนได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับลูกชายตลอด แต่ก็ไม่มีสัญญาณใดๆ ทั้งตน ญาติๆ และชาวบ้านจึงได้นำร่างทรงไปช่วยค้นหา จนพบเสื้อและกระเป๋าสะพายของลูกชายที่แยกบ้านหนองสะแก ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่สัญญาณขาดหายไป จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองบัวโคก เพื่อขอให้ติดตามหาลูกชายที่หายตัวไปอย่างลึกลับ
ระหว่างที่ออกตามหาลูกชาย ร่างทรงกลับมีเสียงและอาการที่เปลี่ยนไป พร้อมแทนตัวเองว่า “รัน” และพูดจาตอบโต้ได้เป็นช่วงๆ ซึ่งพอจะจับใจความได้ว่า ลูกชายไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะมีผ้าคลุมหัวอยู่ รู้สึกหายใจไม่ออก แต่อยู่ห่างจากถนนพอสมควร ซึ่งเป็นถนนลูกรังบนเนินสูงใกล้กอไม้คล้ายไผ่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตนและครอบครัวยังมีความหวังว่า น้องรัน ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่อาจจะตกอยู่ในอันตรายจนไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนมั่นใจว่าลูกชายเป็นเด็กน่ารัก พูดจาไพเราะ ไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แต่ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงหายไปจนไม่สามารถติดต่อได้เช่นนี้ สำหรับหัวอกคนเป็นแม่ เมื่อลูกหายตัวไป ยังไงก็จะค้นหาจนกว่าจะเจอ
ทั้งนี้ยังพบหลักฐานบางอย่างในกล้องวงจรปิดในที่พักแห่งหนึ่งแล้ว ว่ามีชายอีกคนที่เดินทางมากับผู้ตายด้วย ก่อนจะถูกฆ่าที่น่าจะเป็นลักษณะคู่ขากันเพื่อนชายกัน ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนขยายผลความคืบหน้าของคดีโดยด่วนต่อไปอีกด้วย
หลังจากที่ข่าวเผยแพร่ไปพี่สาวของทามได้โพสต์ในเฟซบุ๊คของน้องชายว่า “ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เป็นห่วงและคอยให้กำลังใจนะคะที่ช่วยกันแชร์ที่อ่านข้อความแล้วไม่ได้ตอบกลับหรือยังไม่อ่านเพื่อนทามเยอะมากที่คอยให้กำลังใจก้ต้องขอโทษด้วยตามหาทามมาหลายวันไม่ได้พักผ่อนกันเลยสมองเบลอไปหมดขอบคุณทุกคนมากนะคะขอบคุณมากจริงๆ”
และจากเพจผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า สะออนคักโปรดักชั่น ได้โพสต์คลิปความประมาณ 1.07 นาที พร้อมข้อความโดยระบุว่า…
ทีมค้นหา สะออนคักโปรดักชั่น ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวน้องรัน ตามขั้นตอนก็ต้องตรวจสอบDNAก่อนอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุป งานเรายังไม่จบครับ สิ่งที่ต้องตามต่อ
_โครงกระดูกที่เจอใช่รันจริงหรือ
_ชายเสื้อสีส้มเป็นคัย
_รถรันหายไปไหน
_ทำไมฆาตกรทิ้งหลักฐานไว้เยอะจนสงสัย
_ถ้าโครงกระดูกไม่ใช่รัน แล้วนั่นเป็นใคร
//ติดตามสะออนคักโปรดักชั่น//
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 เม.ย. พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ เร่งสั่งการให้พ.ต.อ.วิรัช เบ้าคำ รองผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นหัวหน้าคุมทีมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารนายนิรันดร์ให้ได้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ
พ.ต.อ.วิรัช เปิดเผยว่า ขณะนี้รู้ตัวเป็นเพื่อนชายเดินทางมาด้วยกันกับผู้ตาย 1 รายแล้ว คือนายปรีชา เกี้ยวสันเทียะ อายุ 26 ปี ชาวอ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา โดยตำรวจออกหมายเรียกเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะตำรวจมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่เข้าไปพักที่รีสอร์ทด้วยกัน 2 แห่งในช่วงเวลาใกล้เคียงกันของวันที่ 8 เม.ย.ในเขตอ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา และมาอีกที่รีสอร์ทอีกแห่งในเขตอ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ก่อนใกล้ถึงเวลา 23.00 น.ของวันที่ 8 เม.ย.ที่ผู้ตายหายตัวไป ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้
ทีมสืบสวนสอบสวนได้ข้อมูลหลักฐานสำคัญที่พบว่ามีผู้ต้องสงสัย 2 คนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายนิรันดร์นั้น เบื้องต้นพบว่าคือ นายวัชระ หรือน็อต (ขอสงวนนามสกุล) กับนายสาทิตย์ หรือหมูหยอง (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกันและเป็นคนในพื้นที่อ.เมืองชัยภูมิ โดยพบว่านายสาทิตย์ หรือหมูหยอง เป็นคนลงมือฆ่านายนิรันดร์ แล้วให้นายวัชระ หรือน็อต เป็นคนนำศพไปเผาและฝังอำพรางคดี ส่วนรถเก๋งมิราจนั้นสาทิตย์เป็นคนขับไป
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดทีมสืบสวนได้ควบคุมตัวนายวัชระ หรือน็อต ได้แล้ว โดยนำตัวไปสอบปากคำที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งว่าไปพบนายนิรันดร์เหยื่อได้อย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่าทั้งนายวัชระ หรือน็อต และนายสาทิตย์ มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ และอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ส่วนสาทิตย์นั้นยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว
กรณีการหายตัวของนายนิรันดร์ หรือทาม สร้อยสูงเนิน อายุ 25 ปี หนุ่มหล่อชาวจังหวัดชัยภูมิที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีแล้วเดินทางมาเกณฑ์ทหารที่จังหวัดชัยภูมิ ปรากฏว่าหายตัวอย่างลึกลับ โดยญาตินายนิรันดร์ระบุว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน เป็นวันสุดท้ายที่ได้คุยโทรศัพท์กับแม่ โดยเช็คสัญญาณมือถือครั้งสุดท้ายอยู่ที่อำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ จากนั้นสัญญาญหายไป และไม่สามารถติดต่อได้ จึงแจ้งความตำรวจที่สภ.หนองบัวโคกไว้ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
จนล่าสุดพบศพ นายนิรันดร์ ถูกฆาตกรรมฝังอยู่ท้ายป่ายูคาลิปตัส ซึ่งยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้
ที่มา https://www.siamzaa.net/29527/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น