จากโศกนาฏกรรมสะเทือนใจ รถตู้มรณะชนปิกอัพจนมีผู้เสียชีวิต 25 ศพที่บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อบ่ายวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น โดยพบว่า 1 ในผู้เสียชีวิตคือน.ส.หทัยทิพย์ หรือเจเจ หมดภัย ซึ่งเป็นพนักงานขายของโชว์รูมฮอนด้า ได้โพสต์สุดท้ายที่คนอ่านแล้วต้องสะเทือนใจอย่างยิ่ง เพราะเธอโพสต์ก่อนขึ้นรถตู้มรณะ ว่า “รู้สึกใจหาย ไม่อยากกลับกรุงเทพ อยากอยู่บ้าน แค่มานั่งรอรถตู้ จะร้องไห้ คิดถึงพ่อแม่ อยู่ที่ไหนไม่อบอุ่นเท่าที่บ้านแระ” (อ่านข่าว RIP. สุดสะเทือนใจอ่านโพสต์สุดท้าย”สาวจันท์” ก่อนขึ้นรถตู้มรณะชนสยอง 25 ศพ
ล่าสุดวันที่ 3 ธ.ค. นายเหียน หมดภัย อายุ 71 ปี ชาวจันทบุรีบิดาของน.ส.หทัยทิพย์ ได้เดินทางมาขอเอกสารจากพนักงานสอบสวนสภ.บ้านบึง โดยนายเหียนกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค น้องหทัยทิพย์ได้เดินทางกลับมาเที่ยวปีใหม่ที่บ้านที่เมืองจันท์ โดยบอกว่าจะกลับวันที่ 2 มกราคม เตรียมตัวที่จะไปทำงานในวันที่ 3 มกราคม มาอยู่บ้านได้พักเดียวเอง
ช่วงที่ลูกสาวกลับมาบ้าน ก็พากันไปกราบศาลหลักเมืองพระเจ้าตากสิน และก็นั่งกินข้าวกันที่บ้าน ยังคุยกันไม่ได้สักเท่าไหรเลย พอวันที่ 2 ผมก็ขับรถมาส่งน้องหทัยทิพย์ขึ้นรถตู้ และก็กอดกันก่อนขึ้นรถ ตอนรู้สึกยังไงบอกไม่ถูก พอให้หลังไม่ถึง 2 ชั่วโมงดูข่าวทราบว่ารถคันที่น้องหทัยทิพย์ประสบอุบัติเหตุที่ชลบุรีก็ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก
“เสียใจมากปัจจุบัน น้องหทัยทิพย์เป็นลูกคนเดียว เป็นเสาหลักคอยช่วยเหลือพ่อแม่ แต่ละเดือนน้องหทัยทิพย์ก็จะส่งเงินมาให้พ่อกับแม่เดือนละ 4000 บาท ตอนนี้ไม่มีลูกสาวแล้ว ก็รู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก”นายเหียนกล่าวทั้งน้ำตา
ส่วนนางวิมล หมดภัย อายุ 66 ปี แม่ของน.ส.หทัยทิพย์ ได้เดินทางมาขอดูกล้องวงจรปิดกับทางคิรถตู้ ร่ำไห้กล่าวว่า ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีลูกสาวเพียงคนเดียว เป็นที่พึ่งสุดท้ายในเวลาแก่เฒ่า แต่ต้องมาจบชีวิต ในช่วงเวลาเพิ่งทำงานได้ปีเศษที่จ.นครปฐม อ่านข่าว เปิดคลิปสุดท้าย นาที 15 ชีวิตขึ้นรถตู้มรณะ โชเฟอร์ยืนดื่มกาแฟ-เช็กสภาพรถ
“ช่วงลูกกลับมาปีใหม่ ได้มีโอกาสไปไหว้พระขอพรทำบุญ และได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่วัน ก่อนกลับไปทำงาน จนกระทั่งมาทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางคิวรถตู้ ซึ่งฉันอยากจะเรียกร้องกับผู้ทีเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคิวรถ ให้ช่วยกำกับดูแล ตรวจสอบความพร้อมของรถ รวมถึงคนขับ ซึ่งในช่วงเทศกาลที่มาการโดยสารกันมากกว่าปกติ เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_169709
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น