วินาทีสดโหดตำรวจวิ่งเข้าชาร์ต "หญิงสาว" วัย 49 วิ่งตัดหน้าขบวนรถพระที่นั่ง ร.10 !! ประชาชนสุดซึ้ง นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงรับสั่ง??ทรงพระเจริญ!! (ชมคลิป)




ทางตำรวจนครบาลได้นำตัวเข้าไปสอบถามที่กองราชพระพิธีในพระบรมมหาราชวัง ทราบชื่อ คือ นางศุภนุช บุญกิจ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 53/332 สุวินทวงศ์ 13 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. เจตนาเพื่อจะถวายฎีกา เรื่อง ขอบุตรทั้งสองคืนจากรัฐบาลเยอรมนี



ข้อความตอนหนึ่งที่จะถวายฎีกา เขียนว่า “ถูกสำนักคุ้มครองเด็กและเยาวชนของรัฐแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ร้องศาลถอดถอนสิทธิการปกครองดูแลบุตร และได้นำเด็กทั้งสองไปอยู่ในความดูแลของสามีภรรยาสกุล stcrk เป็นการกระทำละเมิดสิทธิการปกครองดูแลบุตรของดิฉัน ไม่ได้ต้องการให้คนเหล่านั้นมานำลูกทั้งสองไป ผ่านมา 10 ปีแล้วที่ดิฉันและลูกทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนวันนี้ทุกข์มาก


... ดิฉันได้พยายามร้องเรียนให้ศาลครอบครัวและศาลยุติธรรมเข้าช่วยตัดสินให้ความเป็นธรรมกับดิฉันและลูกทั้งสอง ซึ่งแม่และเด็กอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องเหมาะสมควรได้รับตามปกติ แต่เหตุการณ์ไม่ปกติกับดิฉันและลูกทั้งสอง ไม่ได้รับความยุติธรรม โดนกลั่นแกล้ง กีดกัน กระทำให้เสียหาย ด้วยเจตนาหวังหาผลประโยชน์กับเด็ก กระทำให้เป็นเด็กกำพร้าเพื่อหารายได้จากการเข้ามาดูแล”




อย่างไรก็ดี จากเหตุดังกล่าว มีนายตำรวจส่งข้อความผ่านทางไลน์พิทักษ์ ชนะ1 ว่า “ ท่านรับสั่งว่า อย่าไปทำอะไร ให้สอบและปล่อยตัวไปได้ ชมเชยตำรวจทำหน้าที่ได้เร็วดีมาก เขาสติไม่ดีเรื่องลูก ไม่เป็นไรเราอยู่ด้วยตอนท่านรับสั่งกับภักดี 34”ทางตำรวจนครบาลได้นำตัวเข้าไปสอบถามที่กองราชพระพิธีในพระบรมมหาราชวัง ทราบชื่อ คือ นางศุภนุช บุญกิจ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 53/332 สุวินทวงศ์ 13 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. เจตนาเพื่อจะถวายฎีกา เรื่อง ขอบุตรทั้งสองคืนจากรัฐบาลเยอรมนี

ข้อความตอนหนึ่งที่จะถวายฎีกา เขียนว่า “ถูกสำนักคุ้มครองเด็กและเยาวชนของรัฐแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ร้องศาลถอดถอนสิทธิการปกครองดูแลบุตร และได้นำเด็กทั้งสองไปอยู่ในความดูแลของสามีภรรยาสกุล stcrk เป็นการกระทำละเมิดสิทธิการปกครองดูแลบุตรของดิฉัน ไม่ได้ต้องการให้คนเหล่านั้นมานำลูกทั้งสองไป ผ่านมา 10 ปีแล้วที่ดิฉันและลูกทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนวันนี้ทุกข์มาก

... ดิฉันได้พยายามร้องเรียนให้ศาลครอบครัวและศาลยุติธรรมเข้าช่วยตัดสินให้ความเป็นธรรมกับดิฉันและลูกทั้งสอง ซึ่งแม่และเด็กอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องเหมาะสมควรได้รับตามปกติ แต่เหตุการณ์ไม่ปกติกับดิฉันและลูกทั้งสอง ไม่ได้รับความยุติธรรม โดนกลั่นแกล้ง กีดกัน กระทำให้เสียหาย ด้วยเจตนาหวังหาผลประโยชน์กับเด็ก กระทำให้เป็นเด็กกำพร้าเพื่อหารายได้จากการเข้ามาดูแล”

อย่างไรก็ดี จากเหตุดังกล่าว มีนายตำรวจส่งข้อความผ่านทางไลน์พิทักษ์ ชนะ1 ว่า “ ท่านรับสั่งว่า อย่าไปทำอะไร ให้สอบและปล่อยตัวไปได้ ชมเชยตำรวจทำหน้าที่ได้เร็วดีมาก เขาสติไม่ดีเรื่องลูก ไม่เป็นไรเราอยู่ด้วยตอนท่านรับสั่งกับภักดี 34” 




ที่มา http://www.likekhao.com/2017/02/49-10.html
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น