เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 1 เม.ย.2560 พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี สาราวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต นำตัวนายเฉลิมพล อายุ 41 ปี อยู่บ้านพัก ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 13 แยก 1 ต.กระทุ่มราย แขวงหนองจอก กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ 467/2546 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2546
โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาชิงทรัพย์ข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายและกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นหรือกระทำการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ด้าน พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี สาราวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2546 ขณะนั้นนายเอ (นามสมมติ) ผู้ตาย พร้อมภรรยาคือ น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปพบผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนกัน ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.ปทุมธานี
จากนั้นก็นั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกัน กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. นายเอ ได้ชวน น.ส.บี กลับบ้านพัก แต่ผู้ต้องหากลับวางแผนบอกให้ทั้งคู่นอนพักอยู่ด้วยกันก่อน พร้อมบอกว่าจะจัดที่พักซึ่งเป็นบ้านพักใกล้ๆ ให้ ทั้งคู่จึงตกลงว่าจะนอนค้างตามคำชวน
จากนั้นเมื่อนายเอ ออกจากที่พัก เพื่อย้อนกลับไปหาผู้ต้องหา จึงถูกตีจนเสียชีวิต หลังจากลงมือฆ่านายเอแล้ว ผู้ต้องหาก็ได้ย้อนกลับมาหา น.ส.บี ที่นั่งค่อยอยู่ที่บ้าน ก่อนบังคับพาเดินไปดูศพพร้อมทั้งข่มขู่เอาทรัพย์สินรวมกันแล้วเป็นเงิน 12,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาก็อำพรางศพโดยใช้ท่อซีเมนต์ทับร่างผู้ตายเอาไว้ เมื่อเสร็จแล้วก็พา น.ส.บี กลับมายังที่บ้านพัก พร้อมกับลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และยังกักขังไว้อีกถึง 3 วัน ตลอดช่วงเวลา 3 วันนั้น ผู้ต้องยังลงมือข่มขืนเหยื่ออีกหลายครั้ง ก่อนจะหลบหนีไป
เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งในการสอบปากคำผู้ต้องรายนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ให้นายความมาร่วมฟังการสอบปากคำเพราะผู้ต้องหามีอัตราโทษสูงสุด ถึงขั้นประหารชีวิต
เมื่อตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าหลังจากก่อเหตุในคดีนี้ได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และไปก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา กักขังหน่วงเหนี่ยว พนักงานร้านอาหารในพื้นที่ สภ.ดอยสะเก็ด และถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษา เมื่อวันที่ 4 ส.ค.47 ลงโทษจำคุก 12 ปี 7 เดือน ซึ่งเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อประมาณกลางปี 2558 ที่ผ่านมา
ที่มา http://yimpos.blogspot.com/2017/04/3.html
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น